การแกะสลักพระจากรูปถ่ายด้วยเครื่อง CNC ขนาดเล็ก เป็นงานที่ละเอียดอ่อนและต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงทักษะหลายด้าน
มาดูกันว่าต้องเริ่มจากตรงไหนบ้าง:1. เตรียมรูปถ่าย:
เลือกรูปถ่ายคุณภาพสูง: รูปที่คมชัด มีรายละเอียดครบถ้วน จะช่วยให้แบบจำลอง 3D มีความละเอียดและแม่นยำมากขึ้น
ปรับแต่งรูปถ่าย: อาจต้องใช้โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ เช่น Photoshop เพื่อลบพื้นหลัง ปรับแสงเงา เพิ่มความคมชัด
2. สร้างแบบจำลอง 3D:
เลือกซอฟต์แวร์: มีโปรแกรมมากมาย เช่น ArtCAM, Aspire, ZBrush ที่สามารถใช้สร้างแบบจำลอง 3D จากรูปถ่ายได้
เรียนรู้การใช้งานซอฟต์แวร์: ศึกษาคู่มือ บทเรียนออนไลน์ หรือเข้าร่วมคอร์สอบรม เพื่อเรียนรู้วิธีการสร้างแบบจำลอง 3D
แปลงรูปถ่ายเป็นแบบจำลอง 3D: กระบวนการนี้ อาจต้องใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น การปรับแต่งพื้นผิว (Surface modeling) หรือการแกะสลัก (Sculpting)
ตรวจสอบและแก้ไขแบบจำลอง: ตรวจสอบความถูกต้องของขนาด สัดส่วน และรายละเอียด แก้ไขข้อผิดพลาด ก่อนนำไปใช้งานจริง
3. ตั้งค่าเครื่อง CNC:
เลือกวัสดุ: ไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้สัก เป็นวัสดุที่นิยมใช้
ตั้งค่าเครื่องมือ: เลือกดอกกัดที่เหมาะสมกับขนาดและรายละเอียดของแบบจำลอง
กำหนดเส้นทางเครื่องมือ: ใช้ซอฟต์แวร์ CAM กำหนดเส้นทางการเคลื่อนที่ของดอกกัด
4. แกะสลัก:
ทดสอบกับวัสดุราคาถูก: ก่อนแกะสลักจริง ควรทดลองกับวัสดุราคาถูก เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของแบบจำลอง เส้นทางเครื่องมือ และการตั้งค่าต่างๆ
แกะสลักจริง: เริ่มแกะสลักด้วยความเร็วต่ำ ค่อยๆ เพิ่มความเร็วและความลึกเมื่อมั่นใจ
ขัดแต่ง: หลังจากแกะสลักเสร็จ ใช้กระดาษทรายขัดแต่งผิวให้เรียบเนียน
คำแนะนำเพิ่มเติม:
ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการแกะสลักพระ เพื่อให้เข้าใจถึงสัดส่วน รูปทรง และรายละเอียดที่สำคัญ
เริ่มจากแบบจำลองที่ไม่ซับซ้อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความยากเมื่อคุณมีประสบการณ์มากขึ้น
ใจเย็นๆ และฝึกฝนบ่อยๆ การแกะสลักด้วย CNC เป็นงานที่ต้องใช้เวลา ความอดทน และความละเอียดรอบคอบ
หมายเหตุ:
กระบวนการทั้งหมดนี้ อาจมีความซับซ้อนและใช้เวลามาก หากคุณเพิ่งเริ่มต้น ควรศึกษาข้อมูลและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ หรือขอคำแนะนำ
.............................................................................
การใช้ ArtCAM ขึ้นรูปจากภาพนั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยที่เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนที่จะเริ่มลงมือทำ
ขั้นตอนคร่าวๆ ใน ArtCAM (อาจแตกต่างกันไปตามเวอร์ชัน):นำเข้ารูปภาพ (Import Image):
- เปิด ArtCAM และสร้างไฟล์ใหม่ (New Model)
- เลือกคำสั่ง "Import" หรือ "Bitmap to Vector" (ส่วนใหญ่อยู่ในเมนู "Relief" หรือ "Vectors")
- เลือกรูปภาพของคุณจากโฟลเดอร์
ปรับแต่งรูปภาพ (Image Preparation):
- ปรับขนาดและตำแหน่ง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขนาดรูปภาพเหมาะสมกับพื้นที่ทำงาน
- ปรับความคมชัด/ความสว่าง (Contrast/Brightness): ปรับแต่งเพื่อให้รายละเอียดในรูปภาพชัดเจน
- ลบพื้นหลังที่ไม่ต้องการ: ใช้เครื่องมือ "Erase" หรือ "Magic Wand" เพื่อลบพื้นหลังที่ไม่ต้องการออกจากรูปภาพ
- ขั้นตอนนี้สำคัญมากเพราะ ArtCAM ทำงานกับเส้นเวกเตอร์
- เลือกคำสั่ง "Vectorize" หรือ "Trace Bitmap"
- ปรับแต่งค่าต่างๆ เช่น ความละเอียด (Resolution), จำนวนสี (Number of Colors), เพื่อให้ได้เส้นเวกเตอร์ที่เหมาะสม
- ตรวจสอบเส้นเวกเตอร์ที่ได้ แก้ไขจุดบกพร่อง
- เลือกคำสั่ง "Create Relief" หรือ "Emboss"
- กำหนดความสูง (Height) ของแบบจำลอง 3D
- เลือกเครื่องมือ "Smooth" เพื่อปรับความเรียบของพื้นผิว
- อาจต้องใช้เทคนิค "Sculpting" ใน ArtCAM เพื่อปรับแต่งรายละเอียดเพิ่มเติม
- หมุนดูแบบจำลอง 3D จากหลายๆ มุม
- ซูมเข้าไปดูรายละเอียด
- ใช้เครื่องมือแก้ไข แก้ไขจุดบกพร่อง
- บันทึกไฟล์ในรูปแบบที่เหมาะสมกับเครื่อง CNC ของคุณ (เช่น .stl, .obj)
.
คำแนะนำเพิ่มเติม:
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- ศึกษาคู่มือ ArtCAM หรือบทเรียนออนไลน์
- เริ่มจากรูปภาพที่ไม่ซับซ้อนเกินไป
- ฝึกฝนกับแบบจำลองอย่างง่ายก่อน
- อย่ากลัวที่จะทดลอง
................................................................................
มาดูวิธีปรับขนาด, ตำแหน่ง, ความคมชัด และลบพื้นหลังใน ArtCAM กัน
1. ปรับขนาดและตำแหน่งรูปภาพ
- เลือก: คลิกที่รูปภาพที่นำเข้ามาใน ArtCAM เพื่อเลือก
- ปรับขนาด:
มักจะมี "จุด" หรือ "กล่องเล็กๆ" ปรากฏขึ้นรอบๆรูปภาพเมื่อถูกเลือกคลิกและลากจุดเหล่านี้เพื่อปรับขนาดกดปุ่ม Shift ค้างไว้ขณะลาก เพื่อรักษาสัดส่วนของรูปภาพ
- ย้ายตำแหน่ง:
คลิกที่รูปภาพค้างไว้ แล้วลากไปยังตำแหน่งที่ต้องการ
- เคล็ดลับ:
- ตรวจสอบขนาดพื้นที่ทำงาน (Job Size) ของ ArtCAM ว่าใหญ่พอสำหรับรูปภาพหรือไม่- ใช้ Grid (ตาราง) บนพื้นที่ทำงานช่วยในการจัดวาง
2. ปรับความคมชัด/ความสว่าง
- เปิดหน้าต่างปรับแต่ง: เมนูที่เกี่ยวข้องกับการปรับแต่งภาพใน ArtCAM มักจะอยู่ที่
"Bitmap" (บิตแมป)"Image" (รูปภาพ)"Adjustments" (การปรับแต่ง)
- ปรับค่า:
ความคมชัด (Contrast): เพิ่มความแตกต่างระหว่างส่วนมืดและสว่างความสว่าง (Brightness): ทำให้ภาพสว่างขึ้นหรือมืดลง
- ดูตัวอย่าง (Preview): สังเกตการเปลี่ยนแปลงของภาพขณะปรับค่า
- เครื่องมือ "Erase" (ลบ):
เลือกเครื่องมือ "Erase" (มักเป็นรูปยางลบ)ปรับขนาดยางลบ (Brush Size) ให้เหมาะสมคลิกและลากเมาส์ไปบนพื้นที่ที่ต้องการลบ
- เครื่องมือ "Magic Wand" (ไม้กายสิทธิ์):
เลือกเครื่องมือ "Magic Wand"คลิกที่พื้นที่สีเดียวกันที่ต้องการลบปรับค่า "Tolerance" เพื่อควบคุมขอบเขตการเลือกสีที่ใกล้เคียงกันกดปุ่ม Delete เพื่อลบพื้นที่ที่เลือก
- คำแนะนำ:
ทำสำเนา (Duplicate) รูปภาพต้นฉบับไว้ก่อน เพื่อป้องกันการแก้ไขผิดพลาดฝึกฝนการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อความชำนาญดูวิดีโอสอนบน YouTube อาจช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น
..................................................................................................
การแปลงภาพ Raster (ภาพแบบบิตแมพ) เป็น Vector (ภาพแบบเส้น) เป็นขั้นตอนสำคัญมากใน ArtCAM เพราะ ArtCAM ใช้เส้นเวกเตอร์ในการสร้างแบบจำลอง 3D และควบคุมการทำงานของเครื่อง CNC
มาดูวิธีการ Vectorize หรือ Trace Bitmap ใน ArtCAM กันแบบละเอียด:
1. เลือกคำสั่ง "Vectorize" หรือ "Trace Bitmap":
- คำสั่งนี้อาจอยู่ในเมนู "Vectors" หรือ "Relief" หรือในส่วนของเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า/แก้ไขรูปภาพ
- ชื่อคำสั่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละเวอร์ชันของ ArtCAM
2. หน้าต่าง "Vectorization Options" จะปรากฏขึ้น:
- Resolution (ความละเอียด):
- ค่านี้กำหนดความละเอียดของเส้นเวกเตอร์
- ค่า สูง จะได้เส้นละเอียด เหมาะกับภาพที่มีรายละเอียดมาก แต่ไฟล์จะมีขนาดใหญ่
- ค่า ต่ำ จะได้เส้นหยาบ ไฟล์จะมีขนาดเล็ก เหมาะกับภาพที่ไม่ซับซ้อน
- Number of Colors (จำนวนสี):
- ถ้ารูปภาพของคุณมีหลายสี ArtCAM จะพยายามแยกสีต่างๆ ออกมาเป็นเส้นเวกเตอร์
- การ ลด จำนวนสี จะช่วยลดความซับซ้อนของเส้นเวกเตอร์
- ตัวเลือกอื่นๆ: อาจมีตัวเลือกเพิ่มเติม เช่น การปรับความเรียบของเส้น (Smoothness), การกำจัดจุดรบกวน (Noise Reduction), ลองศึกษาและทดลองใช้งานดู
3. คลิก "OK" หรือ "Apply" เพื่อเริ่มกระบวนการ Vectorize
4. ตรวจสอบเส้นเวกเตอร์:
- ซูมเข้าไปดูรายละเอียด
- เส้นเวกเตอร์ควรจะเรียบเนียน ต่อเนื่องกัน และแสดงรายละเอียดของรูปภาพต้นฉบับอย่างครบถ้วน
5. แก้ไขจุดบกพร่อง:
- เครื่องมือ "Node Editing": ใช้สำหรับเลือก ย้าย เพิ่ม หรือลบ "จุด" (Nodes) บนเส้นเวกเตอร์
- เครื่องมือ "Smooth" และ "Simplify": ใช้ปรับความเรียบของเส้น และลดจำนวนจุดบนเส้นเวกเตอร์
- วาดเส้นใหม่: บางครั้งอาจต้องวาดเส้นเวกเตอร์บางส่วนใหม่ โดยใช้เครื่องมือวาดเส้นใน ArtCAM
คำแนะนำ:
- การตั้งค่า Vectorization ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและรายละเอียดของภาพ
- ทดลองกับค่าต่างๆ เพื่อดูผลลัพธ์
- การฝึกฝนจะช่วยให้คุณ
- มีวิดีโอสอนการใช้ ArtCAM บน YouTube มากมาย ลองค้นหาด้วยคำว่า "ArtCAM Vectorize" หรือ "ArtCAM Trace Bitmap"
......................................................
การสร้างแบบจำลอง 3D จากเส้นเวกเตอร์ที่เราเตรียมไว้ มาดูวิธีใช้คำสั่ง "Create Relief" "Emboss" และเทคนิค "Sculpting" ใน ArtCAM กัน
1. เลือกคำสั่ง "Create Relief" หรือ "Emboss":
- คำสั่งเหล่านี้มักจะอยู่ในเมนู "Relief" หรือ "3D"
- "Create Relief" มักจะใช้สำหรับสร้างแบบจำลอง 3D ที่มีความซับซ้อนและสามารถปรับแต่งได้มาก
- "Emboss" มักจะใช้สร้างแบบจำลอง 3D ที่เรียบง่าย คล้ายกับการปั๊มนูน
2. หน้าต่าง "Relief Options" จะปรากฏขึ้น:
- Height (ความสูง):
- กำหนดความสูงของแบบจำลอง 3D
- หน่วยวัดอาจเป็นมิลลิเมตร นิ้ว หรือหน่วยอื่นๆ ตามที่ตั้งค่าไว้ใน ArtCAM
- Base Height (ความสูงฐาน):
- กำหนดความสูงของส่วนที่ต่ำที่สุดของแบบจำลอง 3D
- ตัวเลือกอื่นๆ: อาจมีตัวเลือกเพิ่มเติม เช่น
- Angle (มุม): กำหนดมุมของแสงที่ตกกระทบ มีผลต่อการแสดงผลของพื้นผิว
- Smoothing (ความเรียบ): ปรับความเรียบของพื้นผิว
- Material Thickness (ความหนาวัสดุ): กำหนดความหนาของวัสดุที่จะนำไปแกะสลัก
3. คลิก "OK" หรือ "Apply" เพื่อสร้างแบบจำลอง 3D
4. ปรับความเรียบของพื้นผิวด้วยเครื่องมือ "Smooth":
- เลือกเครื่องมือ "Smooth" (มักเป็นรูปมือ หรือไอคอนคล้ายฟองน้ำ)
- ปรับขนาด Brush Size ให้เหมาะสม
- คลิกและลากเมาส์เบาๆ บนพื้นผิว 3D เพื่อปรับความเรียบเนียน
5. เทคนิค "Sculpting" (การแกะสลัก):
- ArtCAM อาจมีเครื่องมือ "Sculpting" ที่ช่วยให้คุณ "ปั้น" "แกะ" "ขัด" พื้นผิว 3D ได้อย่างอิสระมากขึ้น
- เครื่องมือยอดนิยม เช่น:
- Clay Brushes: เหมือนการปั้นดินเหนียว
- Grab Brushes: ดึง ยืด หด พื้นผิว
- Flatten Brushes: ทำให้พื้นผิวเรียบ
- ศึกษาและทดลองใช้เครื่องมือ Sculpting ต่างๆ เพื่อสร้างรายละเอียดที่ต้องการ
คำแนะนำ:
- เริ่มต้นด้วยการสร้างแบบจำลอง 3D ที่มีความสูงไม่มากนัก แล้วค่อยๆ เพิ่มความสูง
- ใช้เครื่องมือ "Smooth" อย่างระมัดระวัง การปรับแต่งมากเกินไป อาจทำให้รายละเอียดของแบบจำลองหายไป
- เทคนิค "Sculpting" ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และฝึกฝน แต่จะช่วยให้คุณสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระมากขึ้น
......................................................
มาถึงขั้นตอนสุดท้าย ก่อนที่จะนำแบบจำลอง 3D ไปใช้งานจริง นั่นคือการตรวจสอบและแก้ไขข้อบกพร่อง
1. หมุนดูแบบจำลอง 3D จากหลายๆ มุม:
- ใช้เมาส์ คลิกค้างไว้แล้วลาก เพื่อหมุนดูแบบจำลอง 3D ใน ArtCAM
- ตรวจสอบรูปทรง สัดส่วน และรายละเอียดจากทุกมุมมอง (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบน)
- ตรวจสอบว่ามีส่วนใด "ผิดรูป" "บิดเบี้ยว" หรือ "ไม่สมดุล" หรือไม่
2. ซูมเข้าไปดูรายละเอียด:
- ใช้ Scroll Wheel บนเมาส์ หรือ เครื่องมือ Zoom
- ซูมเข้าไปดูพื้นผิว มุม และส่วนโค้งต่างๆ อย่างละเอียด
- มองหาพื้นผิวที่ไม่เรียบ เส้นที่ไม่ต่อเนื่อง หรือจุดบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ
3. ใช้เครื่องมือแก้ไข แก้ไขจุดบกพร่อง:
- เครื่องมือแก้ไขจุด (Point Edit):
ย้ายจุด (vertices) บนพื้นผิว 3D เพื่อปรับแต่งรูปทรงเพิ่มจุด เพื่อสร้างรายละเอียดเพิ่มเติมลบจุด เพื่อลดความซับซ้อนของพื้นผิว
- เครื่องมือปรับความเรียบ (Smooth):
ใช้ปรับความเรียบของพื้นผิว ในบริเวณที่ต้องการ
- เครื่องมือ Sculpting:
ใช้เครื่องมือ Sculpting เช่น Clay Brushes, Grab Brushes เพื่อ "ปั้น" "แกะ" "ขัด" พื้นผิว 3D
- เครื่องมือลบ/เพิ่มพื้นที่ (Erase/Add):
บางโปรแกรม อาจมีเครื่องมือสำหรับลบ หรือเพิ่มพื้นที่ของแบบจำลอง 3D
เคล็ดลับ:
- ใช้ฟังก์ชั่น "Undo/Redo" เพื่อย้อนกลับ หรือทำซ้ำ การกระทำ
- บันทึก (Save) งานของคุณเป็นระยะๆ
- ลองพิมพ์แบบจำลอง 3D ออกมาดู (3D Print) หรือ แสดงผลแบบจำลอง 3D บนวัสดุจริง (Simulation) เพื่อตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้งานจริง
.............................................
การบันทึกไฟล์ให้ถูกต้องเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนส่งงาน 3D ของเราไปยังเครื่อง CNC ซึ่งไฟล์ประเภท .stl และ .obj เป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันมาก
มาดูวิธีบันทึกไฟล์ใน ArtCAM สำหรับเครื่อง CNC กันครับ
1. เลือกคำสั่ง "Save As" หรือ "Export":
- คำสั่ง "Save As" จะบันทึกไฟล์ในรูปแบบของ ArtCAM เอง (.art) ซึ่งคุณสามารถเปิดแก้ไขใน ArtCAM ได้ภายหลัง
- คำสั่ง "Export" จะบันทึก หรือแปลงไฟล์ 3D เป็นรูปแบบอื่นๆ เช่น .stl หรือ .obj
2. เลือกตำแหน่งและตั้งชื่อไฟล์:
- เลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการบันทึกไฟล์
- ตั้งชื่อไฟล์ที่จำง่ายและสื่อความหมาย
3. เลือกรูปแบบไฟล์:
- STL (Stereolithography):
- เป็นรูปแบบไฟล์ 3D ที่นิยมใช้กันมากที่สุด
- ไฟล์ .stl จะเก็บข้อมูลพื้นผิวของแบบจำลอง 3D เป็นรูปสามเหลี่ยมเล็กๆ (triangles)
- เหมาะสำหรับเครื่อง CNC ส่วนใหญ่
- OBJ (Wavefront OBJ):
- เป็นอีกรูปแบบไฟล์ 3D ที่ได้รับความนิยม
- ไฟล์ .obj สามารถเก็บข้อมูลสีของพื้นผิว 3D ได้ด้วย
- บางโปรแกรม CAM อาจรองรับไฟล์ .obj มากกว่า .stl
4. ตั้งค่าตัวเลือกการ Export (ถ้ามี):
- Resolution (ความละเอียด):
- ค่านี้กำหนดความละเอียดของพื้นผิว 3D ในไฟล์ที่ Export ออกมา
- ค่า สูง จะได้ไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ แต่รายละเอียดจะคมชัดกว่า
- ค่า ต่ำ จะได้ไฟล์ที่มีขนาดเล็ก แต่รายละเอียดจะน้อยกว่า
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน่วยที่ใช้ใน ArtCAM และเครื่อง CNC ของคุณตรงกัน (เช่น มิลลิเมตร หรือ นิ้ว)
5. คลิก "Save" หรือ "Export" เพื่อบันทึกไฟล์
คำแนะนำ:
- ศึกษาคู่มือของเครื่อง CNC เพื่อดูว่ารองรับไฟล์ประเภทใด และมีข้อกำหนดเฉพาะอย่างไร
- ลอง Export ไฟล์ออกมาทั้ง .stl และ .obj เผื่อไว้
- ตรวจสอบขนาดของไฟล์ 3D ถ้าไฟล์มีขนาดใหญ่มาก อาจต้องลดความละเอียดในการ Export
- หลังจากบันทึกไฟล์แล้ว คุณสามารถนำไฟล์ .stl หรือ .obj ไปเปิดในโปรแกรม CAM เพื่อสร้างเส้นทางเครื่องมือ (Toolpaths) และส่งงานไปยังเครื่อง CNC ได้เลย
...............................................
มาลงรายละเอียดการตั้งค่าเครื่อง CNC 3018 Pro CNC Router เพื่อแกะสลักแบบจำลอง 3D ของคุณกันครับ!
1. เลือกวัสดุ:
- ไม้เนื้ออ่อน: ไม้สัก, ไม้บัลซา, ไม้สน เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะแกะง่ายและราคาไม่แพง
- พลาสติก: เช่น ABS, Acrylic มีให้เลือกหลายสีสัน แต่บางชนิดอาจมีควันหรือกลิ่นรุนแรงขณะแกะสลัก
- วัสดุอื่นๆ: เช่น อลูมิเนียม ทองแดง ต้องใช้ดอกกัดและความเร็วรอบที่เหมาะสม รวมถึงระบบระบายความร้อนที่ดี
2. เลือกและติดตั้งดอกกัด:
- ดอกกัดปลายตรง (Flat End Mill): ใช้สำหรับแกะพื้นผิวเรียบ สร้างขอบคม
- ขนาด: เลือกขนาดให้เหมาะกับรายละเอียดของแบบจำลอง
- ยิ่งรายละเอียดมาก ยิ่งต้องใช้ดอกกัดขนาดเล็ก
- ดอกกัดปลายบอล (Ball End Mill): ใช้สำหรับแกะพื้นผิวโค้งมน
- ดอกกัดชนิดอื่นๆ: เช่น ดอกกัดร่องวี (V-Bit) สำหรับแกะเส้น ดอกกัดแกะลาย (Engraving Bit)
- การติดตั้ง:
- คลาย collet nut (น็อตยึดดอกกัด)
- สอดดอกกัดเข้าไปใน collet ให้ลึกพอ
- ขัน collet nut ให้แน่น
3. กำหนดเส้นทางเครื่องมือในซอฟต์แวร์ CAM:
- นำเข้าไฟล์ 3D: เปิดซอฟต์แวร์ CAM (เช่น Candle, GRBL Candle, Carbide Create) แล้วนำเข้าไฟล์ .stl หรือ .obj
- ตั้งค่า Stock (ขนาดชิ้นงาน): กำหนดขนาดของวัสดุที่จะใช้แกะสลัก
- เลือกกระบวนการ (Operations):
- Roughing (การกัดหยาบ):
- ใช้ดอกกัดขนาดใหญ่ กัดวัสดุส่วนเกินออกอย่างรวดเร็ว
- ตั้งค่า Step Over (ระยะห่างระหว่างทางเดินของดอกกัดแต่ละรอบ) ให้กว้าง
- Finishing (การกัดละเอียด):
- ใช้ดอกกัดขนาดเล็ก แกะรายละเอียด
- ตั้งค่า Step Over ให้แคบลง
- ตัวเลือกอื่นๆ: เช่น แกะ 2D, เจาะรู
- กำหนดค่าพารามิเตอร์:
- ความเร็วรอบ (Spindle Speed):
- ขึ้นอยู่กับวัสดุและดอกกัดที่ใช้
- ดูค่าที่แนะนำจากผู้ผลิตดอกกัด
- ความเร็วในการป้อน (Feed Rate):
- ความเร็วในการเคลื่อนที่ของดอกกัดขณะแกะสลัก
- ถ้าเร็วเกินไป อาจทำให้ดอกกัดหัก
- ถ้าช้าเกินไป จะใช้เวลานาน
- สร้าง G-code: เมื่อตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว ให้ Generate G-code ซึ่งเป็นชุดคำสั่งที่เครื่อง CNC เข้าใจ
4. ส่ง G-code ไปยังเครื่อง CNC 3018 Pro:
- เชื่อมต่อเครื่อง CNC 3018 Pro กับคอมพิวเตอร์
- เปิดซอฟต์แวร์ควบคุม CNC (เช่น GRBL)
- โหลด G-code เข้าไปในซอฟต์แวร์ควบคุม
- ตั้งค่า Zero (จุดกำเนิด) บนชิ้นงาน
- เริ่มการแกะสลัก
คำแนะนำ:
ศึกษาคู่มือของเครื่อง CNC 3018 Pro และซอฟต์แวร์ CAM อย่างละเอียด
ทดสอบการตั้งค่าต่างๆ กับวัสดุราคาถูก ก่อนแกะสลักจริง
สวมแว่นตานิรภัย และอุปกรณ์ป้องกัน ขณะใช้งานเครื่อง CNC
......................................
มาเจาะลึกเรื่องดอกกัด (End Mill) กันแบบละเอียดเลยครับ!
- ประเภทของดอกกัด:
- ดอกกัดปลายตรง (Flat End Mill):
- ลักษณะ: ปลายดอกกัดเรียบ เป็นเส้นตรง เหมาะสำหรับ
- แกะพื้นผิวเรียบ สร้างขอบคมชัด
- ตัดวัสดุให้เป็นร่องลึก
- ข้อดี: ตัดได้เร็ว ได้พื้นผิวเรียบ
- ข้อควรระวัง:
- อาจเกิดรอยเป็นขั้นบันได (Stair-stepping) บนพื้นผิวโค้งมน
- ไม่เหมาะกับการแกะรายละเอียดที่เล็กมากๆ
- ดอกกัดปลายบอล (Ball End Mill):
- ลักษณะ: ปลายดอกกัดเป็นทรงกลม
- เหมาะสำหรับ:
- แกะพื้นผิวโค้งมน
- สร้างรูปทรงอินทรีย์
- แกะรายละเอียดเล็กๆ
- ข้อดี: ได้พื้นผิวที่เรียบเนียน ไม่มีรอยเป็นขั้นบันได
- ข้อควรระวัง: ตัดช้ากว่าดอกกัดปลายตรง
- ดอกกัดร่องวี (V-Bit):
- ลักษณะ: ปลายดอกกัดเป็นรูปตัววี
- เหมาะสำหรับ:
- แกะสลักเส้น ตัวอักษร
- สร้างร่องวี
- ข้อดี: สร้างเส้นคมชัด
- ข้อควรระวัง: ไม่เหมาะกับการแกะพื้นผิว
- ดอกกัดแกะลาย (Engraving Bit):
- ลักษณะ: ปลายดอกกัดมีหลายแบบ
- เหมาะสำหรับ:
- แกะสลักลวดลาย
- แกะรูปภาพ
- สร้างพื้นผิวที่มี Texture
- ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง (Diameter):
- เลือกขนาดให้เหมาะกับรายละเอียดของแบบจำลอง
- รายละเอียดมาก = ดอกกัดขนาดเล็ก (เช่น 0.5 มม. - 1 มม.)
- รายละเอียดน้อย = ดอกกัดขนาดใหญ่ (เช่น 2 มม. - 6 มม.)
- ความยาวคมตัด (Cutting Length):
- เลือกความยาวให้เหมาะกับความลึกของแบบจำลอง 3D
- คลาย Collet Nut: ใช้ประแจคลายน็อตที่ยึดดอกกัด (Collet Nut)
- สอดดอกกัด: สอดดอกกัดเข้าไปใน Collet ให้ลึกพอ (ประมาณ 2/3 ของความยาว Collet)
- ขัน Collet Nut: ใช้ประแจขัน Collet Nut ให้แน่น
- ศึกษาคู่มือของเครื่อง CNC และดอกกัด
- ใช้ดอกกัดที่คม
- อย่าขัน Collet Nut แน่นเกินไป
- ทำความสะอาด Collet และดอกกัด
....................................
มาดูวิธีนำเข้าไฟล์ 3D (.stl หรือ .obj) เข้าสู่ซอฟต์แวร์ CAM ยอดนิยมสำหรับเครื่อง CNC ขนาดเล็กกัน
1. Candle:
- Candle เป็นซอฟต์แวร์ CAM ฟรีที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- ขั้นตอนการนำเข้าไฟล์ 3D:
- ดาวน์โหลดและติดตั้ง Candle จาก https://github.com/Denvi/Candle/releases
- เปิด Candle และคลิกที่ไอคอน "Open" (โฟลเดอร์สีเหลือง)
- เลือกไฟล์ .stl หรือ .obj ที่คุณต้องการนำเข้า
- คลิก "Open"
- แบบจำลอง 3D จะปรากฏขึ้นในหน้าต่าง Candle
2. GRBL Candle:
- GRBL Candle เป็นอีกเวอร์ชันของ Candle ที่ออกแบบมาสำหรับ GRBL Controller โดยเฉพาะ
- ขั้นตอนการนำเข้าไฟล์ 3D:
- ดาวน์โหลดและติดตั้ง GRBL Candle จาก https://github.com/gbrl/Candle/releases
- เปิด GRBL Candle
- คลิกที่ไอคอน "Load STL" หรือ "Load OBJ" บนแถบเครื่องมือ
- เลือกไฟล์ .stl หรือ .obj ที่คุณต้องการ
- แบบจำลอง 3D จะปรากฏขึ้น
3. Carbide Create:
- Carbide Create เป็นซอฟต์แวร์ CAM ฟรีจาก Carbide 3D มีเครื่องมือที่ใช้งานง่าย
- ขั้นตอนการนำเข้าไฟล์ 3D:
- ดาวน์โหลดและติดตั้ง Carbide Create จาก https://carbide3d.com/carbidecreate/
- เปิด Carbide Create
- คลิกที่เมนู "File" > "Import"
- เลือกไฟล์ .stl หรือ .obj
- แบบจำลอง 3D จะปรากฏขึ้น
หมายเหตุ:
- ซอฟต์แวร์ CAM บางตัวอาจรองรับเฉพาะไฟล์ .stl หรือ .obj เท่านั้น
- หลังจากนำเข้าไฟล์ 3D แล้ว คุณอาจต้องปรับขนาด ตำแหน่ง และการหมุน (Rotate) ของแบบจำลอง 3D ให้เหมาะสมกับพื้นที่ทำงาน
.......................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น