จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

การใช้ ArtCAM ขึ้นรูปจากภาพ

 การแกะสลักพระจากรูปถ่ายด้วยเครื่อง CNC ขนาดเล็ก เป็นงานที่ละเอียดอ่อนและต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงทักษะหลายด้าน

มาดูกันว่าต้องเริ่มจากตรงไหนบ้าง:

1. เตรียมรูปถ่าย:

เลือกรูปถ่ายคุณภาพสูง: รูปที่คมชัด มีรายละเอียดครบถ้วน จะช่วยให้แบบจำลอง 3D มีความละเอียดและแม่นยำมากขึ้น
ปรับแต่งรูปถ่าย: อาจต้องใช้โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ เช่น Photoshop เพื่อลบพื้นหลัง ปรับแสงเงา เพิ่มความคมชัด

2. สร้างแบบจำลอง 3D:

เลือกซอฟต์แวร์: มีโปรแกรมมากมาย เช่น ArtCAM, Aspire, ZBrush ที่สามารถใช้สร้างแบบจำลอง 3D จากรูปถ่ายได้
เรียนรู้การใช้งานซอฟต์แวร์: ศึกษาคู่มือ บทเรียนออนไลน์ หรือเข้าร่วมคอร์สอบรม เพื่อเรียนรู้วิธีการสร้างแบบจำลอง 3D
แปลงรูปถ่ายเป็นแบบจำลอง 3D: กระบวนการนี้ อาจต้องใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น การปรับแต่งพื้นผิว (Surface modeling) หรือการแกะสลัก (Sculpting)
ตรวจสอบและแก้ไขแบบจำลอง: ตรวจสอบความถูกต้องของขนาด สัดส่วน และรายละเอียด แก้ไขข้อผิดพลาด ก่อนนำไปใช้งานจริง

3. ตั้งค่าเครื่อง CNC:

เลือกวัสดุ: ไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้สัก เป็นวัสดุที่นิยมใช้
ตั้งค่าเครื่องมือ: เลือกดอกกัดที่เหมาะสมกับขนาดและรายละเอียดของแบบจำลอง
กำหนดเส้นทางเครื่องมือ: ใช้ซอฟต์แวร์ CAM กำหนดเส้นทางการเคลื่อนที่ของดอกกัด

4. แกะสลัก:

ทดสอบกับวัสดุราคาถูก: ก่อนแกะสลักจริง ควรทดลองกับวัสดุราคาถูก เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของแบบจำลอง เส้นทางเครื่องมือ และการตั้งค่าต่างๆ
แกะสลักจริง: เริ่มแกะสลักด้วยความเร็วต่ำ ค่อยๆ เพิ่มความเร็วและความลึกเมื่อมั่นใจ
ขัดแต่ง: หลังจากแกะสลักเสร็จ ใช้กระดาษทรายขัดแต่งผิวให้เรียบเนียน

คำแนะนำเพิ่มเติม:

ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการแกะสลักพระ เพื่อให้เข้าใจถึงสัดส่วน รูปทรง และรายละเอียดที่สำคัญ
เริ่มจากแบบจำลองที่ไม่ซับซ้อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความยากเมื่อคุณมีประสบการณ์มากขึ้น
ใจเย็นๆ และฝึกฝนบ่อยๆ การแกะสลักด้วย CNC เป็นงานที่ต้องใช้เวลา ความอดทน และความละเอียดรอบคอบ

หมายเหตุ:

กระบวนการทั้งหมดนี้ อาจมีความซับซ้อนและใช้เวลามาก หากคุณเพิ่งเริ่มต้น ควรศึกษาข้อมูลและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ หรือขอคำแนะนำ

.............................................................................

การใช้ ArtCAM ขึ้นรูปจากภาพนั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยที่เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนที่จะเริ่มลงมือทำ

ขั้นตอนคร่าวๆ ใน ArtCAM (อาจแตกต่างกันไปตามเวอร์ชัน):

นำเข้ารูปภาพ (Import Image):
  • เปิด ArtCAM และสร้างไฟล์ใหม่ (New Model)
  • เลือกคำสั่ง "Import" หรือ "Bitmap to Vector" (ส่วนใหญ่อยู่ในเมนู "Relief" หรือ "Vectors")
  • เลือกรูปภาพของคุณจากโฟลเดอร์


ปรับแต่งรูปภาพ (Image Preparation):

  • ปรับขนาดและตำแหน่ง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขนาดรูปภาพเหมาะสมกับพื้นที่ทำงาน
  • ปรับความคมชัด/ความสว่าง (Contrast/Brightness): ปรับแต่งเพื่อให้รายละเอียดในรูปภาพชัดเจน
  • ลบพื้นหลังที่ไม่ต้องการ: ใช้เครื่องมือ "Erase" หรือ "Magic Wand" เพื่อลบพื้นหลังที่ไม่ต้องการออกจากรูปภาพ
แปลงรูปภาพเป็นเวกเตอร์ (Vectorize):
  • ขั้นตอนนี้สำคัญมากเพราะ ArtCAM ทำงานกับเส้นเวกเตอร์
  • เลือกคำสั่ง "Vectorize" หรือ "Trace Bitmap"
  • ปรับแต่งค่าต่างๆ เช่น ความละเอียด (Resolution), จำนวนสี (Number of Colors), เพื่อให้ได้เส้นเวกเตอร์ที่เหมาะสม
  • ตรวจสอบเส้นเวกเตอร์ที่ได้ แก้ไขจุดบกพร่อง
สร้างแบบจำลอง 3D (Create 3D Model):
  • เลือกคำสั่ง "Create Relief" หรือ "Emboss"
  • กำหนดความสูง (Height) ของแบบจำลอง 3D
  • เลือกเครื่องมือ "Smooth" เพื่อปรับความเรียบของพื้นผิว
  • อาจต้องใช้เทคนิค "Sculpting" ใน ArtCAM เพื่อปรับแต่งรายละเอียดเพิ่มเติม
ตรวจสอบและแก้ไข (Inspect and Edit):
  • หมุนดูแบบจำลอง 3D จากหลายๆ มุม
  • ซูมเข้าไปดูรายละเอียด
  • ใช้เครื่องมือแก้ไข แก้ไขจุดบกพร่อง
บันทึกไฟล์ (Save File):
  • บันทึกไฟล์ในรูปแบบที่เหมาะสมกับเครื่อง CNC ของคุณ (เช่น .stl, .obj)
.
คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • ศึกษาคู่มือ ArtCAM หรือบทเรียนออนไลน์
  • เริ่มจากรูปภาพที่ไม่ซับซ้อนเกินไป
  • ฝึกฝนกับแบบจำลองอย่างง่ายก่อน
  • อย่ากลัวที่จะทดลอง
การใช้ ArtCAM ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และฝึกฝน ใจเย็นๆ และขอให้สนุกกับการสร้างสรรค์ผลงาน!


................................................................................

มาดูวิธีปรับขนาด, ตำแหน่ง, ความคมชัด และลบพื้นหลังใน ArtCAM กัน

1. ปรับขนาดและตำแหน่งรูปภาพ
  • เลือก: คลิกที่รูปภาพที่นำเข้ามาใน ArtCAM เพื่อเลือก
  • ปรับขนาด:
มักจะมี "จุด" หรือ "กล่องเล็กๆ" ปรากฏขึ้นรอบๆรูปภาพเมื่อถูกเลือก
คลิกและลากจุดเหล่านี้เพื่อปรับขนาด
กดปุ่ม Shift ค้างไว้ขณะลาก เพื่อรักษาสัดส่วนของรูปภาพ
  • ย้ายตำแหน่ง:
คลิกที่รูปภาพค้างไว้ แล้วลากไปยังตำแหน่งที่ต้องการ

 

  • เคล็ดลับ:
- ตรวจสอบขนาดพื้นที่ทำงาน (Job Size) ของ ArtCAM ว่าใหญ่พอสำหรับรูปภาพหรือไม่
- ใช้ Grid (ตาราง) บนพื้นที่ทำงานช่วยในการจัดวาง

 

2. ปรับความคมชัด/ความสว่าง

  • เปิดหน้าต่างปรับแต่ง: เมนูที่เกี่ยวข้องกับการปรับแต่งภาพใน ArtCAM มักจะอยู่ที่
"Bitmap" (บิตแมป)
"Image" (รูปภาพ)
"Adjustments" (การปรับแต่ง)

 

  • ปรับค่า:
ความคมชัด (Contrast): เพิ่มความแตกต่างระหว่างส่วนมืดและสว่าง
ความสว่าง (Brightness): ทำให้ภาพสว่างขึ้นหรือมืดลง 
  • ดูตัวอย่าง (Preview): สังเกตการเปลี่ยนแปลงของภาพขณะปรับค่า

3. ลบพื้นหลังที่ไม่ต้องการ

  • เครื่องมือ "Erase" (ลบ):
เลือกเครื่องมือ "Erase" (มักเป็นรูปยางลบ)
ปรับขนาดยางลบ (Brush Size) ให้เหมาะสม
คลิกและลากเมาส์ไปบนพื้นที่ที่ต้องการลบ

 

  • เครื่องมือ "Magic Wand" (ไม้กายสิทธิ์):
เลือกเครื่องมือ "Magic Wand"
คลิกที่พื้นที่สีเดียวกันที่ต้องการลบ
ปรับค่า "Tolerance" เพื่อควบคุมขอบเขตการเลือกสีที่ใกล้เคียงกัน
กดปุ่ม Delete เพื่อลบพื้นที่ที่เลือก

 

  • คำแนะนำ:
ทำสำเนา (Duplicate) รูปภาพต้นฉบับไว้ก่อน เพื่อป้องกันการแก้ไขผิดพลาด
ฝึกฝนการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อความชำนาญ
ดูวิดีโอสอนบน YouTube อาจช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น
..................................................................................................

การแปลงภาพ Raster (ภาพแบบบิตแมพ) เป็น Vector (ภาพแบบเส้น) เป็นขั้นตอนสำคัญมากใน ArtCAM เพราะ ArtCAM ใช้เส้นเวกเตอร์ในการสร้างแบบจำลอง 3D และควบคุมการทำงานของเครื่อง CNC

มาดูวิธีการ Vectorize หรือ Trace Bitmap ใน ArtCAM กันแบบละเอียด:

1. เลือกคำสั่ง "Vectorize" หรือ "Trace Bitmap":

  • คำสั่งนี้อาจอยู่ในเมนู "Vectors" หรือ "Relief" หรือในส่วนของเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า/แก้ไขรูปภาพ
  • ชื่อคำสั่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละเวอร์ชันของ ArtCAM

2. หน้าต่าง "Vectorization Options" จะปรากฏขึ้น:
  • Resolution (ความละเอียด):
  • ค่านี้กำหนดความละเอียดของเส้นเวกเตอร์
  • ค่า สูง จะได้เส้นละเอียด เหมาะกับภาพที่มีรายละเอียดมาก แต่ไฟล์จะมีขนาดใหญ่
  • ค่า ต่ำ จะได้เส้นหยาบ ไฟล์จะมีขนาดเล็ก เหมาะกับภาพที่ไม่ซับซ้อน
  • Number of Colors (จำนวนสี):
  • ถ้ารูปภาพของคุณมีหลายสี ArtCAM จะพยายามแยกสีต่างๆ ออกมาเป็นเส้นเวกเตอร์
  • การ ลด จำนวนสี จะช่วยลดความซับซ้อนของเส้นเวกเตอร์
  • ตัวเลือกอื่นๆ: อาจมีตัวเลือกเพิ่มเติม เช่น การปรับความเรียบของเส้น (Smoothness), การกำจัดจุดรบกวน (Noise Reduction), ลองศึกษาและทดลองใช้งานดู

3. คลิก "OK" หรือ "Apply" เพื่อเริ่มกระบวนการ Vectorize

4. ตรวจสอบเส้นเวกเตอร์:
  • ซูมเข้าไปดูรายละเอียด
  • เส้นเวกเตอร์ควรจะเรียบเนียน ต่อเนื่องกัน และแสดงรายละเอียดของรูปภาพต้นฉบับอย่างครบถ้วน

5. แก้ไขจุดบกพร่อง:
  • เครื่องมือ "Node Editing": ใช้สำหรับเลือก ย้าย เพิ่ม หรือลบ "จุด" (Nodes) บนเส้นเวกเตอร์
  • เครื่องมือ "Smooth" และ "Simplify": ใช้ปรับความเรียบของเส้น และลดจำนวนจุดบนเส้นเวกเตอร์
  • วาดเส้นใหม่: บางครั้งอาจต้องวาดเส้นเวกเตอร์บางส่วนใหม่ โดยใช้เครื่องมือวาดเส้นใน ArtCAM

คำแนะนำ:

  • การตั้งค่า Vectorization ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและรายละเอียดของภาพ
  • ทดลองกับค่าต่างๆ เพื่อดูผลลัพธ์
  • การฝึกฝนจะช่วยให้คุณ
  • มีวิดีโอสอนการใช้ ArtCAM บน YouTube มากมาย ลองค้นหาด้วยคำว่า "ArtCAM Vectorize" หรือ "ArtCAM Trace Bitmap"


......................................................

การสร้างแบบจำลอง 3D จากเส้นเวกเตอร์ที่เราเตรียมไว้ มาดูวิธีใช้คำสั่ง "Create Relief" "Emboss" และเทคนิค "Sculpting" ใน ArtCAM กัน

1. เลือกคำสั่ง "Create Relief" หรือ "Emboss":
  • คำสั่งเหล่านี้มักจะอยู่ในเมนู "Relief" หรือ "3D"
  • "Create Relief" มักจะใช้สำหรับสร้างแบบจำลอง 3D ที่มีความซับซ้อนและสามารถปรับแต่งได้มาก
  • "Emboss" มักจะใช้สร้างแบบจำลอง 3D ที่เรียบง่าย คล้ายกับการปั๊มนูน

2. หน้าต่าง "Relief Options" จะปรากฏขึ้น:
  • Height (ความสูง):
  • กำหนดความสูงของแบบจำลอง 3D
  • หน่วยวัดอาจเป็นมิลลิเมตร นิ้ว หรือหน่วยอื่นๆ ตามที่ตั้งค่าไว้ใน ArtCAM
  • Base Height (ความสูงฐาน):
  • กำหนดความสูงของส่วนที่ต่ำที่สุดของแบบจำลอง 3D
  • ตัวเลือกอื่นๆ: อาจมีตัวเลือกเพิ่มเติม เช่น
  • Angle (มุม): กำหนดมุมของแสงที่ตกกระทบ มีผลต่อการแสดงผลของพื้นผิว
  • Smoothing (ความเรียบ): ปรับความเรียบของพื้นผิว
  • Material Thickness (ความหนาวัสดุ): กำหนดความหนาของวัสดุที่จะนำไปแกะสลัก

3. คลิก "OK" หรือ "Apply" เพื่อสร้างแบบจำลอง 3D

4. ปรับความเรียบของพื้นผิวด้วยเครื่องมือ "Smooth":
  • เลือกเครื่องมือ "Smooth" (มักเป็นรูปมือ หรือไอคอนคล้ายฟองน้ำ)
  • ปรับขนาด Brush Size ให้เหมาะสม
  • คลิกและลากเมาส์เบาๆ บนพื้นผิว 3D เพื่อปรับความเรียบเนียน

5. เทคนิค "Sculpting" (การแกะสลัก):
  • ArtCAM อาจมีเครื่องมือ "Sculpting" ที่ช่วยให้คุณ "ปั้น" "แกะ" "ขัด" พื้นผิว 3D ได้อย่างอิสระมากขึ้น
  • เครื่องมือยอดนิยม เช่น:
  • Clay Brushes: เหมือนการปั้นดินเหนียว
  • Grab Brushes: ดึง ยืด หด พื้นผิว
  • Flatten Brushes: ทำให้พื้นผิวเรียบ
  • ศึกษาและทดลองใช้เครื่องมือ Sculpting ต่างๆ เพื่อสร้างรายละเอียดที่ต้องการ

คำแนะนำ:
  • เริ่มต้นด้วยการสร้างแบบจำลอง 3D ที่มีความสูงไม่มากนัก แล้วค่อยๆ เพิ่มความสูง
  • ใช้เครื่องมือ "Smooth" อย่างระมัดระวัง การปรับแต่งมากเกินไป อาจทำให้รายละเอียดของแบบจำลองหายไป
  • เทคนิค "Sculpting" ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และฝึกฝน แต่จะช่วยให้คุณสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระมากขึ้น

......................................................
มาถึงขั้นตอนสุดท้าย ก่อนที่จะนำแบบจำลอง 3D ไปใช้งานจริง นั่นคือการตรวจสอบและแก้ไขข้อบกพร่อง

1. หมุนดูแบบจำลอง 3D จากหลายๆ มุม:
  • ใช้เมาส์ คลิกค้างไว้แล้วลาก เพื่อหมุนดูแบบจำลอง 3D ใน ArtCAM
  • ตรวจสอบรูปทรง สัดส่วน และรายละเอียดจากทุกมุมมอง (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบน)
  • ตรวจสอบว่ามีส่วนใด "ผิดรูป" "บิดเบี้ยว" หรือ "ไม่สมดุล" หรือไม่

2. ซูมเข้าไปดูรายละเอียด:
  • ใช้ Scroll Wheel บนเมาส์ หรือ เครื่องมือ Zoom
  • ซูมเข้าไปดูพื้นผิว มุม และส่วนโค้งต่างๆ อย่างละเอียด
  • มองหาพื้นผิวที่ไม่เรียบ เส้นที่ไม่ต่อเนื่อง หรือจุดบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ

3. ใช้เครื่องมือแก้ไข แก้ไขจุดบกพร่อง:

  • เครื่องมือแก้ไขจุด (Point Edit):
ย้ายจุด (vertices) บนพื้นผิว 3D เพื่อปรับแต่งรูปทรง
เพิ่มจุด เพื่อสร้างรายละเอียดเพิ่มเติม
ลบจุด เพื่อลดความซับซ้อนของพื้นผิว

  • เครื่องมือปรับความเรียบ (Smooth):
ใช้ปรับความเรียบของพื้นผิว ในบริเวณที่ต้องการ

  • เครื่องมือ Sculpting:
ใช้เครื่องมือ Sculpting เช่น Clay Brushes, Grab Brushes เพื่อ "ปั้น" "แกะ" "ขัด" พื้นผิว 3D

  • เครื่องมือลบ/เพิ่มพื้นที่ (Erase/Add):
บางโปรแกรม อาจมีเครื่องมือสำหรับลบ หรือเพิ่มพื้นที่ของแบบจำลอง 3D

เคล็ดลับ:

  • ใช้ฟังก์ชั่น "Undo/Redo" เพื่อย้อนกลับ หรือทำซ้ำ การกระทำ
  • บันทึก (Save) งานของคุณเป็นระยะๆ
  • ลองพิมพ์แบบจำลอง 3D ออกมาดู (3D Print) หรือ แสดงผลแบบจำลอง 3D บนวัสดุจริง (Simulation) เพื่อตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้งานจริง
.............................................

การบันทึกไฟล์ให้ถูกต้องเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนส่งงาน 3D ของเราไปยังเครื่อง CNC ซึ่งไฟล์ประเภท .stl และ .obj เป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันมาก

มาดูวิธีบันทึกไฟล์ใน ArtCAM สำหรับเครื่อง CNC กันครับ

1. เลือกคำสั่ง "Save As" หรือ "Export":
  • คำสั่ง "Save As" จะบันทึกไฟล์ในรูปแบบของ ArtCAM เอง (.art) ซึ่งคุณสามารถเปิดแก้ไขใน ArtCAM ได้ภายหลัง
  • คำสั่ง "Export" จะบันทึก หรือแปลงไฟล์ 3D เป็นรูปแบบอื่นๆ เช่น .stl หรือ .obj

2. เลือกตำแหน่งและตั้งชื่อไฟล์:
  • เลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการบันทึกไฟล์
  • ตั้งชื่อไฟล์ที่จำง่ายและสื่อความหมาย

3. เลือกรูปแบบไฟล์:
  • STL (Stereolithography):
  • เป็นรูปแบบไฟล์ 3D ที่นิยมใช้กันมากที่สุด
  • ไฟล์ .stl จะเก็บข้อมูลพื้นผิวของแบบจำลอง 3D เป็นรูปสามเหลี่ยมเล็กๆ (triangles)
  • เหมาะสำหรับเครื่อง CNC ส่วนใหญ่
  • OBJ (Wavefront OBJ):
  • เป็นอีกรูปแบบไฟล์ 3D ที่ได้รับความนิยม
  • ไฟล์ .obj สามารถเก็บข้อมูลสีของพื้นผิว 3D ได้ด้วย
  • บางโปรแกรม CAM อาจรองรับไฟล์ .obj มากกว่า .stl

4. ตั้งค่าตัวเลือกการ Export (ถ้ามี):
  • Resolution (ความละเอียด):
  • ค่านี้กำหนดความละเอียดของพื้นผิว 3D ในไฟล์ที่ Export ออกมา
  • ค่า สูง จะได้ไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ แต่รายละเอียดจะคมชัดกว่า
  • ค่า ต่ำ จะได้ไฟล์ที่มีขนาดเล็ก แต่รายละเอียดจะน้อยกว่า
Units (หน่วย):
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน่วยที่ใช้ใน ArtCAM และเครื่อง CNC ของคุณตรงกัน (เช่น มิลลิเมตร หรือ นิ้ว)

5. คลิก "Save" หรือ "Export" เพื่อบันทึกไฟล์

คำแนะนำ:
  • ศึกษาคู่มือของเครื่อง CNC เพื่อดูว่ารองรับไฟล์ประเภทใด และมีข้อกำหนดเฉพาะอย่างไร
  • ลอง Export ไฟล์ออกมาทั้ง .stl และ .obj เผื่อไว้
  • ตรวจสอบขนาดของไฟล์ 3D ถ้าไฟล์มีขนาดใหญ่มาก อาจต้องลดความละเอียดในการ Export
  • หลังจากบันทึกไฟล์แล้ว คุณสามารถนำไฟล์ .stl หรือ .obj ไปเปิดในโปรแกรม CAM เพื่อสร้างเส้นทางเครื่องมือ (Toolpaths) และส่งงานไปยังเครื่อง CNC ได้เลย
...............................................

มาลงรายละเอียดการตั้งค่าเครื่อง CNC 3018 Pro CNC Router เพื่อแกะสลักแบบจำลอง 3D ของคุณกันครับ!

1. เลือกวัสดุ:
  • ไม้เนื้ออ่อน: ไม้สัก, ไม้บัลซา, ไม้สน เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะแกะง่ายและราคาไม่แพง
  • พลาสติก: เช่น ABS, Acrylic มีให้เลือกหลายสีสัน แต่บางชนิดอาจมีควันหรือกลิ่นรุนแรงขณะแกะสลัก
  • วัสดุอื่นๆ: เช่น อลูมิเนียม ทองแดง ต้องใช้ดอกกัดและความเร็วรอบที่เหมาะสม รวมถึงระบบระบายความร้อนที่ดี

2. เลือกและติดตั้งดอกกัด:
  • ดอกกัดปลายตรง (Flat End Mill): ใช้สำหรับแกะพื้นผิวเรียบ สร้างขอบคม
  • ขนาด: เลือกขนาดให้เหมาะกับรายละเอียดของแบบจำลอง
  • ยิ่งรายละเอียดมาก ยิ่งต้องใช้ดอกกัดขนาดเล็ก
  • ดอกกัดปลายบอล (Ball End Mill): ใช้สำหรับแกะพื้นผิวโค้งมน
  • ดอกกัดชนิดอื่นๆ: เช่น ดอกกัดร่องวี (V-Bit) สำหรับแกะเส้น ดอกกัดแกะลาย (Engraving Bit)
  • การติดตั้ง:
  • คลาย collet nut (น็อตยึดดอกกัด)
  • สอดดอกกัดเข้าไปใน collet ให้ลึกพอ
  • ขัน collet nut ให้แน่น

3. กำหนดเส้นทางเครื่องมือในซอฟต์แวร์ CAM:
  • นำเข้าไฟล์ 3D: เปิดซอฟต์แวร์ CAM (เช่น Candle, GRBL Candle, Carbide Create) แล้วนำเข้าไฟล์ .stl หรือ .obj
  • ตั้งค่า Stock (ขนาดชิ้นงาน): กำหนดขนาดของวัสดุที่จะใช้แกะสลัก
  • เลือกกระบวนการ (Operations):
  • Roughing (การกัดหยาบ):
  • ใช้ดอกกัดขนาดใหญ่ กัดวัสดุส่วนเกินออกอย่างรวดเร็ว
  • ตั้งค่า Step Over (ระยะห่างระหว่างทางเดินของดอกกัดแต่ละรอบ) ให้กว้าง
  • Finishing (การกัดละเอียด):
  • ใช้ดอกกัดขนาดเล็ก แกะรายละเอียด
  • ตั้งค่า Step Over ให้แคบลง
  • ตัวเลือกอื่นๆ: เช่น แกะ 2D, เจาะรู
  • กำหนดค่าพารามิเตอร์:
  • ความเร็วรอบ (Spindle Speed):
  • ขึ้นอยู่กับวัสดุและดอกกัดที่ใช้
  • ดูค่าที่แนะนำจากผู้ผลิตดอกกัด
  • ความเร็วในการป้อน (Feed Rate):
  • ความเร็วในการเคลื่อนที่ของดอกกัดขณะแกะสลัก
  • ถ้าเร็วเกินไป อาจทำให้ดอกกัดหัก
  • ถ้าช้าเกินไป จะใช้เวลานาน
  • สร้าง G-code: เมื่อตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว ให้ Generate G-code ซึ่งเป็นชุดคำสั่งที่เครื่อง CNC เข้าใจ

4. ส่ง G-code ไปยังเครื่อง CNC 3018 Pro:
  • เชื่อมต่อเครื่อง CNC 3018 Pro กับคอมพิวเตอร์
  • เปิดซอฟต์แวร์ควบคุม CNC (เช่น GRBL)
  • โหลด G-code เข้าไปในซอฟต์แวร์ควบคุม
  • ตั้งค่า Zero (จุดกำเนิด) บนชิ้นงาน
  • เริ่มการแกะสลัก

คำแนะนำ:

ศึกษาคู่มือของเครื่อง CNC 3018 Pro และซอฟต์แวร์ CAM อย่างละเอียด
ทดสอบการตั้งค่าต่างๆ กับวัสดุราคาถูก ก่อนแกะสลักจริง
สวมแว่นตานิรภัย และอุปกรณ์ป้องกัน ขณะใช้งานเครื่อง CNC

......................................

มาเจาะลึกเรื่องดอกกัด (End Mill) กันแบบละเอียดเลยครับ!

  • ประเภทของดอกกัด:
    • ดอกกัดปลายตรง (Flat End Mill):
      • ลักษณะ: ปลายดอกกัดเรียบ เป็นเส้นตรง เหมาะสำหรับ
        • แกะพื้นผิวเรียบ สร้างขอบคมชัด
        • ตัดวัสดุให้เป็นร่องลึก
    • ข้อดี: ตัดได้เร็ว ได้พื้นผิวเรียบ
    • ข้อควรระวัง:
      • อาจเกิดรอยเป็นขั้นบันได (Stair-stepping) บนพื้นผิวโค้งมน
      • ไม่เหมาะกับการแกะรายละเอียดที่เล็กมากๆ

  • ดอกกัดปลายบอล (Ball End Mill):
    • ลักษณะ: ปลายดอกกัดเป็นทรงกลม
    • เหมาะสำหรับ:
      • แกะพื้นผิวโค้งมน
      • สร้างรูปทรงอินทรีย์
      • แกะรายละเอียดเล็กๆ
    • ข้อดี: ได้พื้นผิวที่เรียบเนียน ไม่มีรอยเป็นขั้นบันได
    • ข้อควรระวัง: ตัดช้ากว่าดอกกัดปลายตรง
  • ดอกกัดร่องวี (V-Bit):
    • ลักษณะ: ปลายดอกกัดเป็นรูปตัววี
    • เหมาะสำหรับ:
      • แกะสลักเส้น ตัวอักษร
      • สร้างร่องวี
    • ข้อดี: สร้างเส้นคมชัด
    • ข้อควรระวัง: ไม่เหมาะกับการแกะพื้นผิว
  • ดอกกัดแกะลาย (Engraving Bit):
    • ลักษณะ: ปลายดอกกัดมีหลายแบบ
    • เหมาะสำหรับ:
      • แกะสลักลวดลาย
      • แกะรูปภาพ
      • สร้างพื้นผิวที่มี Texture

การเลือกขนาดดอกกัด:

  • ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง (Diameter):
    • เลือกขนาดให้เหมาะกับรายละเอียดของแบบจำลอง
    • รายละเอียดมาก = ดอกกัดขนาดเล็ก (เช่น 0.5 มม. - 1 มม.)
    • รายละเอียดน้อย = ดอกกัดขนาดใหญ่ (เช่น 2 มม. - 6 มม.)
  • ความยาวคมตัด (Cutting Length):
    • เลือกความยาวให้เหมาะกับความลึกของแบบจำลอง 3D
การติดตั้งดอกกัด:
  1. คลาย Collet Nut: ใช้ประแจคลายน็อตที่ยึดดอกกัด (Collet Nut)
  2. สอดดอกกัด: สอดดอกกัดเข้าไปใน Collet ให้ลึกพอ (ประมาณ 2/3 ของความยาว Collet)
  3. ขัน Collet Nut: ใช้ประแจขัน Collet Nut ให้แน่น
คำแนะนำ:
  • ศึกษาคู่มือของเครื่อง CNC และดอกกัด
  • ใช้ดอกกัดที่คม
  • อย่าขัน Collet Nut แน่นเกินไป
  • ทำความสะอาด Collet และดอกกัด
....................................

มาดูวิธีนำเข้าไฟล์ 3D (.stl หรือ .obj) เข้าสู่ซอฟต์แวร์ CAM ยอดนิยมสำหรับเครื่อง CNC ขนาดเล็กกัน

1. Candle:

  • Candle เป็นซอฟต์แวร์ CAM ฟรีที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
  • ขั้นตอนการนำเข้าไฟล์ 3D:
    1. ดาวน์โหลดและติดตั้ง Candle จาก https://github.com/Denvi/Candle/releases
    2. เปิด Candle และคลิกที่ไอคอน "Open" (โฟลเดอร์สีเหลือง)
    3. เลือกไฟล์ .stl หรือ .obj ที่คุณต้องการนำเข้า
    4. คลิก "Open"
    5. แบบจำลอง 3D จะปรากฏขึ้นในหน้าต่าง Candle

2. GRBL Candle:

  • GRBL Candle เป็นอีกเวอร์ชันของ Candle ที่ออกแบบมาสำหรับ GRBL Controller โดยเฉพาะ
  • ขั้นตอนการนำเข้าไฟล์ 3D:
    1. ดาวน์โหลดและติดตั้ง GRBL Candle จาก https://github.com/gbrl/Candle/releases
    2. เปิด GRBL Candle
    3. คลิกที่ไอคอน "Load STL" หรือ "Load OBJ" บนแถบเครื่องมือ
    4. เลือกไฟล์ .stl หรือ .obj ที่คุณต้องการ
    5. แบบจำลอง 3D จะปรากฏขึ้น

3. Carbide Create:

  • Carbide Create เป็นซอฟต์แวร์ CAM ฟรีจาก Carbide 3D มีเครื่องมือที่ใช้งานง่าย
  • ขั้นตอนการนำเข้าไฟล์ 3D:
  1. ดาวน์โหลดและติดตั้ง Carbide Create จาก https://carbide3d.com/carbidecreate/
  2. เปิด Carbide Create
  3. คลิกที่เมนู "File" > "Import"
  4. เลือกไฟล์ .stl หรือ .obj
  5. แบบจำลอง 3D จะปรากฏขึ้น

หมายเหตุ:
  • ซอฟต์แวร์ CAM บางตัวอาจรองรับเฉพาะไฟล์ .stl หรือ .obj เท่านั้น
  • หลังจากนำเข้าไฟล์ 3D แล้ว คุณอาจต้องปรับขนาด ตำแหน่ง และการหมุน (Rotate) ของแบบจำลอง 3D ให้เหมาะสมกับพื้นที่ทำงาน
.......................................................



ไม่มีความคิดเห็น:

เรียนซ่อมคอมพิวเตอร์

เทสเพาเวอร์

ดีบักการ์ด