ช่างคอมส่วนใหญ่ใช้หลายวิธีผสมผสานกันเพื่อวินิจฉัยแรมเสียครับ ผมสรุปวิธีที่นิยมใช้และสังเกตได้ง่ายมาให้ดังนี้
1. สังเกตอาการเบื้องต้น (ที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ช่าง)- คอมฯ ค้างบ่อยๆ: ทำงานอยู่ดีๆ ค้างไปเฉยๆ ต้องรีสตาร์ทเครื่องใหม่ เป็นบ่อยโดยไม่ทราบสาเหตุ
- จอฟ้า (Blue Screen of Death): ขึ้นจอฟ้า มีข้อความ error เช่น "PAGE_FAULT_IN_NONPAGED_AREA"
- ไฟล์เสียหาย: เปิดไฟล์แล้วขึ้น Error บอกว่าไฟล์เสียหาย ทั้งที่ไม่เคยแก้ไข
- คอมฯ ทำงานช้าลง: โดยเฉพาะตอนเปิดโปรแกรมใหญ่ๆ หรือ ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน
- ได้ยินเสียงบี๊ปผิดปกติ: ตอนเปิดเครื่อง หรือ ระหว่างใช้งาน
2. ทดสอบด้วยโปรแกรมวินิจฉัย (ที่พอทำเองได้)
- Windows Memory Diagnostic: เป็นเครื่องมือในตัว Windows พิมพ์ "Windows Memory Diagnostic" ในช่องค้นหา แล้วทำตามขั้นตอน
- MemTest86: เป็นโปรแกรมฟรี สำหรับทดสอบแรมโดยเฉพาะ ดาวน์โหลดได้ที่ https://www.memtest86.com/ ต้องทำ Bootable USB ก่อนใช้งาน
3. ตรวจสอบทางกายภาพ (ต้องระวังเรื่องไฟฟ้าสถิต)
- มองหาความเสียหาย: ดูว่าแรมมีรอยไหม้ รอยแตก คราบสกปรก หรือ ขาทองเหลืองงอ หรือไม่
- ทำความสะอาด: ใช้ยางลบดินสอ ลบคราบสกปรก ที่ขาทองเหลืองเบาๆ
- สลับสล็อต: ลองถอดแรมออกมาใส่สล็อตอื่น เผื่อสล็อตเดิมมีปัญหา
4. ทดสอบด้วยการเปลี่ยนแรม
- ลองเปลี่ยนแรมตัวใหม่: ถ้าเป็นไปได้ ลองหาแรมตัวอื่นที่รู้ว่าใช้งานได้ปกติ มาใส่แทนที่
ข้อควรระวัง:
- อาการเหล่านี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้ เช่น ฮาร์ดดิสก์เสีย CPU ร้อนเกินไป
- การแกะหรือซ่อมแซมคอมพิวเตอร์ ต้องมีความรู้ และ ใช้ความระมัดระวัง
- หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาช่างผู้ชำนาญ เพื่อความปลอดภัย และ ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น